เกรียงไกร ปริญญาพล http://www.kkppn.com

 


  

ลำดับความเป็นมาในการก่อสร้างอนุสาวรีย์พระศรีสกุลวงศ์

 

 

              สืบเนื่องจาก  พันตำรวจเอกอนุสรณ์  สู่ศิริ  เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้กำกับการ  กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่  ๒๓ (ห้วงแต่ ปี พ.ศ.๒๕๓๘ – ๒๕๓๙) ได้หารือข้าราชการตำรวจเห็นพ้องตรงกันว่า  หน่วยควรมีอนุสรณ์สถาน “พระศรีสกุลวงศ์ ”  ไว้เป็นที่เคารพสักการะของข้าราชการตำรวจและครอบครัว  รวมทั้งประชาชนทั่วไป  โดยในชั้นต้นได้หารือกับ  พระเดชพระคุณอรุณกิตติโสภณเจ้าอาวาสวัดแจ้งแสงอรุณ  ว่าจะขอย้ายรูปหล่ออนุสรณ์สถานพระยาประจันตประเทศธานี  ซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในวัดแจ้งแสงอรุณ  มาไว้ ณ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓ ค่ายศรีสกุลวงศ์  ซึ่งท่านเจ้าคุณได้เห็นพ้องด้วย  แต่ภายหลังจากการหารือทายาทและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องแล้ว  มีข้อขัดข้องบางประการ  จึงได้ชะลอเรื่องไว้ก่อน  ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.๒๕๔๒ พลตำรวจโทคำรณ  ลียะวนิช  ผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน มีนโยบาย ให้หน่วยที่มีนามค่าย แต่ยังไม่มีพระบรมราชานุสาวรีย์ ,  พระราชานุสาวรีย์  หรืออนุสาวรีย์  ไว้เป็นที่เคารพสักการะบูชาของข้าราชการและครอบครัว ดำเนินการให้มีทุกหน่วย  กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓ โดยพันตำรวจเอก  โชติ ไทยยิ่ง  ผู้กำกับการ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓ เห็นว่าสอดคล้องกับแนวคิดเดิมของหน่วย ที่จะจัดให้มีอนุสรณ์สถานไว้ในหน่วยอยู่แล้ว  จึงได้ดำเนินการจัดทำโครงการก่อสร้างอนุสาวรีย์พระศรีสกุลวงศ์  จากการออกแบบแท่นฐานและรูปหล่อ  รวมทั้งการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณที่ตั้ง  ประมาณค่าใช้จ่ายรวมทั้งสิ้น ๑.๒ ล้านบาท  ซึ่งมีลำดับการดำเนินการดังนี้

             วันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์  ๒๕๔๓  กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓  ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงาน  เพื่อให้การดำเนินการก่อสร้างอนุสาวรีย์ “พระศรีสกุลวงศ์” ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย  ต่อมาวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๔๓ คณะกรรมการบริหารสมาคมชาวสกลนคร นำโดย ร.ต.ไพโรจน์  อุปพงศ์ ได้  เดินทางเยี่ยมชมสถานที่ก่อสร้างอนุสาวรีย์  ซึ่งมีความพอใจและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง  ที่จะให้ กก.ตชด.๒๓ จัดสร้างอนุสาวรีย์พระศรีสกุลวงศ์ขึ้นภายในบริเวณค่ายฯ  โดยให้ทำการหล่อพระรูปหรือรูปเหมือนของพระศรีสกุลวงศ์ขึ้นใหม่ โดยทางสมาคมจะให้การสนับสนุนงบประมาณช่วยเหลือส่วนหนึ่ง


              วันที่ ๙ พฤษภาคม  ๒๕๔๓

              กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓ ได้ทำหนังสือรายงานผลการตรวจเยี่ยมการก่อสร้างอนุสาวรีย์  ถึงกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน  โดยได้ออกแบบรูปหล่ออนุสาวรีย์และแบบฐานรองรับอนุสาวรีย์ตลอดจนบริเวณที่ก่อสร้างไว้เรียบร้อยแล้ว โดยประมาณค่าใช้จ่ายไว้ดังนี้

      ๑. ค่าหล่ออนุสาวรีย์                                                        ๕๐๐,๐๐๐   บาท

      ๒. ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม ๗ %                                                             ๓๕,๐๐๐    บาท

      ๓. ค่าก่อสร้างฐานรองรับ และปรับบริเวณ                            ๑๖๕,๐๐๐   บาท

      ๔. ค่าขยายถนนลาดยาง ๑๒ เมตร                                     ๕๐๐,๐๐๐    บาท

              รวมเป็นเงิน                                                       ๑,๒๐๐,๐๐๐   บาท

          
             
ส่วนเงินทุนในการก่อสร้าง  จะจัดหาโดยขอจัดกองผ้าป่าเพื่อให้ข้าราชการ  พ่อค้า ประชาชน  ได้ร่วมทำบุญโดยกำหนดกองละ ๑๐๐  บาท  จำนวน ๑ หมื่นกอง  และขออนุมัตินำเหรียญพระศรีประกายสิทธิ์ ในส่วนที่ กก.ตชด.๒๓  มีอยู่จำนวน ๑๐,๐๐๐ เหรียญ  มอบให้ผู้ที่ร่วมบริจาคเงินไว้เป็นที่ระลึกและบูชา  เพื่อนำทุนทรัพย์ดังกล่าวมาก่อสร้างอนุสาวรีย์โดยไม่ต้องส่งต้นทุนคืนให้กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (หนังสือ กก.ตชด. ที่ ๐๐๒๔.๒๓๑/๑๒๘๑  ลง ๙ พ.ค.๒๕๔๓)

         

               วันที่ ๑๕ สิงหาคม  ๒๕๔๓

               กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓  ได้ทำหนังสือขออนุญาตก่อสร้างอนุสาวรีย์ “พระศรีสกุลวงศ์” ถึงอธิบดีกรมศิลปากร (หนังสือ ที่ ตช. ๐๐๒๔.๒๓/๒๕๔๔ ลง ๑๕ ส.ค. ๒๕๔๓)


               วันที่  ๑๖  กุมภาพันธ์  ๒๕๔๓

               กรมศิลปากรได้มีหนังสือแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาการสร้างอนุสาวรีย์ฯ  เห็นชอบหลักการให้กองกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓ จัดสร้างอนุสาวรีย์ “พระศรีสกุลวงศ์” พร้อมให้จัดส่งรูปต้นแบบและแบบแท่นประดิษฐานผังบริเวณให้กรมศิลปากร เพื่อประกอบการพิจารณา (หนังสือที่ ศธ ๐๗๐๗/๖๗๖ ลง ก.พ. ๒๕๔๔)


               วันที่ ๑๔  มีนาคม  ๒๕๔๔

               กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓ ได้ส่งรูปต้นแบบอนุสาวรีย์ “พระศรีสกุลวงศ์”

ไปยังกรมศิลปากร  (หนังสือที่ ตช. ๐๐๒๔๒๓/๗๐๘ ลง มี.ค. ๒๕๔๔)

    

 

              วันที่ ๒ เมษายน  ๒๕๔๔ 

 

              กรมศิลปากรมีหนังสือแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาการสร้างอนุสาวรีย์ฯ   เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๔  ถึงกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓  เห็นชอบสถานที่ก่อสร้างบริเวณด้านหน้าอาคารกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓ โดยกำหนดให้ตำแหน่งก่อสร้างชิดเสาธงและจัดทำฉากหลังกั้นระหว่างอนุสาวรีย์กับเสาธง  และให้ส่งแบบแท่นประดิษฐานผังบริเวณที่จะก่อสร้างและบริเวณใกล้เคียงให้กรมศิลปากรเพื่อประกอบการพิจารณา (หนังสือกรมศิลปากร ที่ ศธ ๐๗๐๗/๑๓๓๖ ลง เม.ย. ๒๕๔๔)



                วันที่ ๑๐ เมษายน  ๒๕๔๔

                กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓  ได้ส่งภาพเสก็ตของพระยาประจันตประเทศธานี (พระศรีสกุลวงศ์) ให้กรมศิลปากร  โดยมอบให้ นายศักรินทร์  ฉิมสันเที๊ยะ  ปฏิมากรผู้รับผิดชอบในการก่อสร้างเป็นผู้นำส่ง



               วันที่ ๒๐ เมษายน  ๒๕๔๔

               กองกำกับการตำรวจตะเวนชายแดนที่ ๒๓  ได้ทำหนังสือจ้างกับนายศักรินทร์  ฉิมสันเที๊ยะ  ให้ทำรูปปั้นทองเหลืองรมดำ  พระศรีสกุลวงศ์  ขนาด ๑ เท่าครึ่งของตัวจริงในราคา ๔๐๐.๐๐๐ บาท ไม่รวมภาษี  โดยให้แล้วเสร็จในวันที่ ๓๑ กรกฎาคม  ๒๕๔๔  และได้มีการเปลี่ยนแปลงขั้นตอนการปฏิบัติโดยกรมศิลปากร  จึงเลื่อนการส่งมอบจากเดิมเป็นวันที่  ๑๕  กันยายน  ๒๕๔๔



               วันที่ ๒๕   เมษายน  ๒๕๔๔

               กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓ ได้ส่งแปลนและรูปแท่นฐานอนุสาวรีย์ให้กรมศิลปากร เพื่อประกอบการพิจารณา

 

พล.ต.ท.คำรณ  ลียะวนิช  ผบช.ตชด. เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ฐานอนุสาวรีย์ฯ

 


                วันที่ ๑  พฤษภาคม  ๒๕๔๔

              กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓  ได้จัดพิธีวางศิลาฤกษ์ฐานอนุสาวรีย์พระศรีสกุลวงศ์และทำพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี  เพื่อสมทบทุนเป็นค่าก่อสร้างอนุสาวรีย์โดยมีพลตำรวจโทคำรณ  ลียะวณิช  ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนในขณะนั้น เป็นประธานในพิธีดังกล่าว

 

                วันที่ ๑๕ พฤษภาคม  ๒๕๔๔

                กรมศิลปากรได้ส่งหนังสือแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณาการสร้างอนุสาวรีย์ เมื่อวันที่ ๑๒ เมษายน ๒๕๔๔  ถึงกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓  เห็นชอบรูปต้นแบบ  แต่ให้ปรับปรุงแก้ไขตามข้อสังเกตขอคณะกรรมการพิจารณาสร้างอนุสาวรีย์ เพื่อความสง่างาม ดังนี้

                 ๑.  กระบี่ควรถือตามแนวดิ่ง  ศึกษาลักษณะ กระบี่ให้ถูกต้อง

                 ๒.  ภู่กระบี่ควรห้อยตามธรรมชาติ  ไม่ห้อยตามกระบี่

                 เมื่อแก้ไขรูปต้นแบบตามมติคณะกรรมการฯ เสร็จเรียบร้อยแล้ว  ให้ถ่ายภาพรูปต้นแบบขนาดโปสการ์ดจำนวน ๒ ชุด  และหล่อโลหะรูปต้นแบบจำนวน ๑ รูป จัดส่งให้กรมศิลปากร  เพื่อเป็นหลักฐานในการตรวจสอบ (หนังสือกรมศิลปากร ที่ ศธ ๐๗๐๗/๑๗๘๔ ลง ๑๕ พ.ค.๒๕๔๔)


               วันที่ ๗ กันยายน  ๒๕๔๔
 

               กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓  ทำหนังสือแจ้งให้กรมศิลปากรตรวจสอบความถูกต้องของรูปปั้นต้นแบบพระศรีสกุลวงศ์ที่โรงหล่อของนายศักรินทร์  ฉิมสันเที๊ยะ  ซึ่งตั้งอยู่บ้านเลขที่ ๒๔/๑๙๔  ซอยเพชรเกษม  ๗๙ เขตหนองแขม  กรุงเทพมหานคร




               วันที่ ๕ มิถุนายน  ๒๕๔๕ 

               กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓ ทำหนังสือนมัสการพระคุณเจ้า  ๑๐ วัด  ขอความเมตตาได้อธิฐานจิตและลงอักขระบนแผ่นทองเพื่อเป็นชนวนในการหล่อรูปเหมือนพระศรีสกุลวงศ์



               วันที่ ๒๐ กรกฎาคาม  ๒๕๔๕

 



พล.ต.ท. สาโรจน์  ปัญญา  ผบช.ตชด. เป็นประธานประกอบพิธีเททองอนุสาวรีย์พระศรีสกุลวงศ์

  

                ดำเนินการเคลื่อนย้ายรูปหล่อพระศรีสกุลวงศ์  โดย พันตำรวจเอก  โชติ  ไทยยิ่ง  ผู้กำกับการกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓ เป็นประธานพิธีการเคลื่อนย้ายรูปหล่อฯ และจัดขบวนรถพิธีเคลื่อนย้ายจากโรงพิธี  ๙๓๖/๓๘  ถนนประชาสงเคราะห์  แขวงดินแดง  กรุงเทพมหานคร  เวลา ๐๙.๐๙ น. โดยขบวนพิธีเดินทางถึงกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓  ตำบลธาตุเชิงชุม  อำเภอเมือง  จังหวัดสกลนคร  วันที่  ๑๖  กันยายน  ๒๕๔๕  ๐๙.๐๐ น.  แขกผู้มีเกียรติพร้อมกัน    บริเวณพิธี  มีพลตำรวจโท  สาโรจน์  ปัญญา  เป็นประธานในพิธี

 

 


             
วันที่ ๑๕  กันยายน ๒๕๔๕

              ดำเนินการเคลื่อนย้ายรูปหล่อพระศรีสกุลวงศ์  โดย พันตำรวจเอก  โชติ  ไทยยิ่ง  ผู้กำกับการกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓ เป็นประธานพิธีการเคลื่อนย้ายรูปหล่อฯ และจัดขบวนรถพิธีเคลื่อนย้ายจากโรงพิธี  ๙๓๖/๓๘  ถนนประชาสงเคราะห์  แขวงดินแดง  กรุงเทพมหานคร  เวลา ๐๙.๐๙ น. โดยขบวนพิธีเดินทางถึงกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓  ตำบลธาตุเชิงชุม  อำเภอเมือง  จังหวัดสกลนคร  วันที่  ๑๖  กันยายน  ๒๕๔๕  เวลา  ๐๘.๐๐ น.  โดยมีพิธีต้อนรับและได้ประกอบพิธีติดตรึงรูปหล่อพระศรีสกุลวงศ์  เวลา  ๐๙.๐๙ น.

             จากการที่ พันตำรวจเอก โชติ ไทยยิ่ง  ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓ และข้าราชการตำรวจ ได้มีมติร่วมกัน  กำหนดวันที่ ๑๒ ธันวาคมทุกปี  เป็นวันคล้ายวันสถาปนากองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ ๒๓ ค่ายศรีสกุลวงศ์  โดยเริ่มตั้งแต่ ปี พ.ศ. ๒๕๔๖  เป็นต้นไปนั้น นับว่าเป็นวันมงคลฤกษ์จึงได้กำหนดให้ประกอบพิธีเปิดอนุสาวรีย์พระศรีสกุลวงศ์ไปพร้อมกัน และได้เรียนเชิญท่าน พลตำรวจโท  สาโรจน์ ปัญญา ผู้บัญชาการ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน มาเป็นประธานในพิธี  เพื่อเป็นศิริมงคลของหน่วยสืบไป.

 

 

 

 

 

 

 

 

  


 


 

 

                                                       __________________________________

                  

 

                     แหล่งข้อมูล  :  หนังสือที่ระลึกพิธีเปิดอนุสาวรีย์  พระศรีสกุลวงศ์  
                                         กองกำกับการตำรวจตะเวนชายแดนที่ 23  ตำบลธาตุเชิงชุม 
                                         อำเภอเมือง  จังหวัดสกลนคร  วันศุกร์ที่ 12 ธันวาคม 2546


 


(ขอได้รับความขอบคุณและปรารถนาดีจาก www.kkppn.com)



Online: 1 Visits: 261,440 Today: 4 PageView/Month: 1,143