|
||
พระยาประจันตประเทศธานี
เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๙ มกราคม พ.ศ. ๒๓๘๒ ตรงกับรัชสมัยรัชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แห่งบรมราชจักรีวงศ์ ณ เขตตำบลธาตุเชิงชุมหรือเขตเทศบาลเมืองสกลนครในปัจจุบันนี้ ได้รับราชการมาตามลำดับจนถึง พ.ศ. ๒๔๓๐ ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์และราชทินนามเป็น “ พระยาประจันตประเทศธานีศรีสกลานุรักษ์ ” ตำแหน่ง เจ้าเมืองสกลนคร ซึ่งราชทินนามคำว่า “ ประจันตประเทศธานี ” มีความหมายหรือแปลว่า “ ผู้เป็นใหญ่ในชายแดน ”
ศักดิ์ศรีเจ้าคุณจันต์ เมื่อ พ.ศ. 2450 หลวงผดุงแคว้นประจันต์ (ช่วง) ข้าหลวงบริเวณขอนแก่นได้รับโปรดเกล้าฯ ให้มาดำรงตำแหน่งข้าหลวงบริเวณสกลนคร ตามนโยบายเปลี่ยนระบบการปกครองหัวเมืองอีสานในสมัยนั้น รายละเอียดบางส่วนจะปรากฏใน ท่านเจ้าคุณจันต์ (2) การบริหารราชการภายในเมืองสกลนครในสมัยนั้น จึงมีหลายเรื่องที่ข้าหลวงบริเวณสกลนครมีนโยบายและการทำงานขัดแย้งกับเจ้าคุณจันต์ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการเมือง ตัวอย่างดังต่อไปนี้ก็คือส่วนหนึ่ง โดย พ.ศ. 2451 หลวงผดุงแคว้นประจันต์ (ช่วง) ได้ตัดถนนในเมืองสกลนคร 3 สาย คือ 3. ถนนใสสว่าง (ผ่านหน้าเรือนจำจังหวัดสกลนครในปัจจุบัน) ผลของการตัดถนนดังกล่าว เกิดความขัดแย้งระหว่างข้าหลวงบริเวณสกลนครและเจ้าคุณจันต์ โดยถนนไร้นฤทุกข์คนงานที่กลุยเส้นทางที่ทำเป็นถนนนั้น ได้กลุยล้ำเข้าไปในบางส่วนของที่ดินเจ้าคุณจันต์ ท่านจึงได้โต้แย้งอย่างเต็มที่เพื่อศักดิ์ศรีของท่าน และข้าหลวงบริเวณสกลนครได้มีหนังสือเรียนมายังเจ้าคุณจันต์ โดยมีสาระสำคัญว่า การตัดถนนสายนี้คงกระทบแต่รั้วเท่านั้น ส่วนอื่นไม่ได้เสียหาย ความขัดแย้งดังกล่าวมีต่อเนื่องและหลายเรื่อง บางเรื่องเจ้าคุณจันต์ถึงกับหาว่าข้าหลวงได้หมิ่นประมาทท่าน ทั้งนี้ผู้เขียนจะได้นำเสนอให้ท่านที่สนใจในตอนต่อ ๆ ไป กระทั่งในปี พ.ศ. 2453 หลวงผดุงแคว้นประจันต์ (ช่วง) ได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ไปดำรงตำแหน่งข้าหลวงเมืองหล่มสัก
ต้นฉบับหนังสือที่หลวงผดุงแคว้นประจันต์ (ช่วง) ข้าหลวงบริเวณสกลนคร มีถึงเจ้าคุณจันต์
2. ลักษณะเป็นจดหมายส่วนตัว มิใช่ทางการ ต้นฉบับจึงไม่มีการลงทะเบียนรับ
เมืองสกลนคร วันที่ ๓๐ ธันวาคม ศก ๑๒๘ เรียน เจ้าคุณจันต์ ทราบ ด้วยถนนสายที่ตัดใหม่ ที่ผ่านข้างบ้านเจ้าคุณนั้น เมื่อ ศก ๑๒๖ ผมและคุณพระอนุบาล, กำนัน ,ผู้ใหญ่บ้านกลุยไปตามทางตรง กินรั้วบ้านเจ้าคุณเข้าไปเท่าชั่วถนนที่กว้าง ในเวลานั้น เจ้าคุณก็ไม่ได้โต้แย่ง ได้ตกลงโดยไม่มีการขัดข้องอันใด ส่วนเรือนราษฎรที่ถูกทำถนนสายนี้ก็ต้องลื้อหลายสิบหลัง เขาก็ได้ยอมรื้อโดยไม่มีการขัดขวางอันใดเลย ส่วนที่ถูกรั้วบ้านเจ้าคุณนั้น พนักงานผู้ทำร้องขัดข้องว่า เจ้าคุณไม่ยอมให้ลื้อรั้ว เปนการขัดข้องและเสียเวลาที่ราษฎรจะมาคอยทำถนนอยู่ บ้านเจ้าคุณถูกลื้อแต่รั้วเท่านั้น หาได้เสียหายถึงผลไม้อย่างใดไม่ ส่วนเรือนราษฎรที่เขาถูกลื้อนั้น , เสียทั้งเรือนและผลไม้หลายสิ่งหลายอย่าง เขาก็ไม่มีปฤษมาเถียงอันใด ถ้าเจ้าคุณจะไม่ยอมให้พวกทำถนนลื้อรั้วทำถนนต่อไปตามทางกลุยแล้ว ผมเห็นว่าจะไม่เหมาะยิ่งนัก และทั้งการเรียบร้อยต่อไปก็จะไม่มี เพราะฉนั้น ถนนสายนี้ ชั้นแรกเวลาจะกลุยเจ้าคุณได้อนุญาตเห็นชอบด้วยแล้ว, การเรียนมานี้ก็โดยความรักใคร่นับถือในเจ้าคุณ หวังใจว่าจะไม่มีการขัดข้องอันใด ฉนั้น ขอให้เจ้าคุณอย่าได้ขัดขวางในการที่เขาจะลื้อรั้วทำถนนไปตามทางกลุย ผมจะยินดีที่สุด โดยโอกาสนี้ ขอแสดงความนับถือมายังเจ้าคุณด้วย หลวงผดุงแคว้นประจันต์
อนึ่ง หนังสือฉบับดังกล่าว หลวงผดุงแคว้นประจันต์ (ช่วง) กล่าวอ้างถึงคุณพระอนุบาลนั้น หมายถึง พระอนุบาลสกลเขตร (เมฆ พรหมสาขา ณ สกลนคร) ซึ่งเป็นน้องชายของเจ้าคุณจันต์นั่นเอง. _______________________________________
(ขอได้รับความขอบคุณและปรารถนาดีจาก www.kkppn.com) |
|
Online: 1 | Visits: 259,895 | Today: 139 | PageView/Month: 1,849 |