|
||
พระยาประจันตประเทศธานี โดย เกรียงไกร ปริญญาพล
เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๙ มกราคม พ.ศ. ๒๓๘๒ ตรงกับรัชสมัยรัชกาลที่ ๓ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แห่งบรมราชจักรีวงศ์ ณ เขตตำบลธาตุเชิงชุมหรือเขตเทศบาลเมืองสกลนครในปัจจุบันนี้ ได้รับราชการมาตามลำดับจนถึง พ.ศ. ๒๔๓๐ ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์และราชทินนามเป็น “ พระยาประจันตประเทศธานีศรีสกลานุรักษ์ ” ตำแหน่ง เจ้าเมืองสกลนคร ซึ่งราชทินนามคำว่า “ ประจันตประเทศธานี ” มีความหมายหรือแปลว่า “ ผู้เป็นใหญ่ในชายแดน ”
เจ้าคุณจันต์ถวายปูชนียวัตถุ
คติความเชื่อเกี่ยวกับรอยพระพุทธบาทนั้น เชื่อกันว่ารอยพระพุทธบาทเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของพระพุทธเจ้า จะปรากฏตามสื่อสารมวลชนต่าง ๆ เป็นระยะเสมอมาว่า ได้มีการค้นพบรอยพระพุทธบาทในที่ต่างๆ ทั้งที่เกิดจากธรรมชาติและมนุษย์สร้างขึ้นโดยวัสดุต่าง ๆ แต่หลักใหญ่ๆ ของการสร้างรอยพระพุทธบาทจำลองไว้ก็คงไม่พ้นไปจากความเชื่อของกลุ่มคนในชุมชนที่ต้องการจะแสดงถึงความศรัทธาในองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อเป็นสัญลักษณ์แทนพระพุทธเจ้า เป็นสิ่งที่ระลึกถึงพุทธองค์ และความเชื่อต่าง ๆ
ท่านเจ้าคุณจันต์ เป็นพุทธศาสนิกชนที่เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง ในขณะที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั่น ได้สร้างบุญบารมีด้วยการสร้างวัดอุทิศถวายไว้ในบวรพุทธศาสนาถึง 6 วัด จะปรากฏรายละเอียดในบทความท่านเจ้าคุณจันต์ (5) แต่ในบทนี้ ผู้เขียนขอนำเสนอท่านผู้ที่สนใจในประวัติศาสตร์ท้องถิ่นของเมืองสกลนคร และในบทบาทของท่านเจ้าคุณจันต์ที่มีต่อสังคม หลายท่านคงจะเคยไปกราบนมัสการองค์พระธาตุเชิงชุมและหลวงพ่อพระองค์แสนที่วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ซึ่งเป็นวัดพระอารามหลวงชั้นโทชนิดวรวิหารและเป็นวัดประจำจังหวัดสกลนคร เมื่อเลี้ยวผ่านซุ้มประตูเรือนแก้วชั้นในเข้าไป ด้านซ้ายมือจะเป็นพระอุโบสถหลังเก่า มีลักษณะชั้นเดียว โปร่ง เป็นศิลปอีสานประยุกต์เวียดนาม เข้าไปภายในพระอุโบสถ เบื้องหน้าของพระพุทธรูปประจำพระอุโบสถซึ่งมีเป็นจำนวนมากและหลายขนาด จะปรากฏรอยพระพุทธบาทจำลองวางอยู่ รอยพระพุทธบาทจำลองนี้สร้างด้วยหินทราย มีขนาดความกว้างวัดถึงขอบนอกประมาณ 80 เซนติเมตร ความยาววัดถึงขอบนอกประมาณ 200 เซนติเมตร ความหนาของขอบ 16.5 เซนติเมตร ลึกจากขอบลงถึงพื้นด้านในประมาณ 16.5 เซนติเมตร ฝีมือช่างในการแกะสลักสวยงามพอควร
(พระอุโบสถหลังเก่า)
(รอยพระพุทธบาทจำลองภายในพระอุโบสถหลังเก่า)
ส่วนวงกลมภายในรอยพระพุทธบาท คือ ธรรมจักร ปริศนาธรรม เป็นเครื่อง หมายคำสอนของพุทธองค์หรืออาจมีนัยความหมายถึงล้อหมุนจากความเสื่อมไปหาความเจริญหรือจากกิเลสไปสู่ความหลุดพ้น ผู้เขียนเข้าใจว่าอาจยังไม่มีท่านผู้ใดทราบว่ารอยพระพุทธบาทจำลองสร้างมาแต่เมื่อใด ผู้ใดหรือคณะบุคคลใดเป็นผู้สร้าง แท้จริงแล้วรอยพระพุทธบาทจำลองนี้ พระยาประจันตประเทศธานี (โง่นคำ พรหมสาขา ณ สกลนคร) เจ้าเมืองสกลนคร เป็นผู้สร้างและได้ถวายแด่องค์พระธาตุเชิงชุม และเป็นพุทธบูชาแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์เมื่อปีระกา พ.ศ. 2440 มีหลักฐานในบันทึกเหตุการณ์บ้านเมืองสกลนคร ฉบับสำนักหลวงพิจารณ์อักษร (เส พรหมสาขา ณ สกลนคร) หน้าที่ 51 เดิมเข้าใจว่าคงจะวางไว้หน้าประตูทางเข้าองค์พระธาตุเพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการะบูชา แต่เมื่อกาลเวลาผ่านมานานการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพภายในวัดมีมากขึ้น จึงได้เคลื่อนย้ายมาวางไว้ในพระอุโบสถหลังเก่า ผู้เขียนสันนิษฐานว่าศิลาแลงที่นำมาสลักเป็นรอยพระพุทธบาทจำลองนี้ น่าจะนำมาจากภูพานห่างจากตัวเมืองสกลนครไปทางทิศตะวันตกประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร และช่างท้องถิ่นในเมืองสกลนครเป็นผู้แกะสลัก ปริศนาเกี่ยวกับปูชนียวัตถุที่สำคัญของเมืองสกลนครที่สำคัญชิ้นนี้ ผู้เขียนเห็นว่าควรนำเสนอเปิดเผยต่อสังคม เพื่อท่านที่เป็นบุตรหลานสืบสายสกุลของท่านเจ้าคุณจันต์ และผู้ที่สนใจทั่วไปควรรับทราบ ผู้เขียนอายุยังน้อย มีความรู้และความเข้าใจในพระพุทธศาสนาจำกัดมาก การถ่ายทอดวิชาความรู้ในด้านพระพุทธศาสนาอาจไม่ดีพอ ประกอบทั้งในโลกออนไลน์ผู้เขียนเห็นด้วยความเคารพว่าไม่ควรที่จะใช้ภาษาในทางวิชาการจนเกินไป
ดังนั้นในบทนี้ ผู้เขียนจึงขอเรียนท่านทั้งหลายเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกันว่า ท่านเจ้าคุณจันต์เป็นผู้สร้างรอยพระพุทธบาทจำลองถวายแด่องค์พระธาตุเชิงชุมครับ.
อ้างอิง : บันทึกเหตุการณ์บ้านเมืองสกลนคร ฉบับสำนักหลวง
(ขอได้รับความขอบคุณและปรารถนาดีจาก www.kkppn.com)
|
|
Online: 1 | Visits: 259,893 | Today: 137 | PageView/Month: 1,845 |